![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjR-FPjUnXxFfa83mCd8yYoXtW6aLzm4jVnr4BL8KCGr4QdltgoHb1ZliYrYI3KN1zFriG5rsw32UoDvkkz-9KPF2-u14DzxUIDmKzdEiae1V2pdycD7OpNK2brZgWyJV_wMZkKk2pA4Cc/s400/Rintarn_Page_07.jpg)
ผลเฉลยของสมการชเรอดิงเงอร์
พิจารณาหาผลเฉลยทั่วไปของสมการชเรอดิงเงอร์ในแต่ละบริเวณ ดังนี้
บริเวณ![\mathbf{I} (x < 0 , V = \infty)](https://lh3.googleusercontent.com/blogger_img_proxy/AEn0k_umZI9NCpB_CKNkcX-8Dyv0YhbjXkoWncP5D7Q1I1tdXrZ4p_Dsoqwr8FQ9BbV7REUCpUVpCqtGliOK4ySusNo1FxuWUAiOPqStxXr_-tQIBzMiVqM1zNf_9_ylRMpSJXruYA63qX2XJN2YvPy0lzV2YcXVVHuJJeMFBzuyQA2ddfPyJCN3Bpfhr29x9rJKUTdAYnKQs43fSAA=s0-d)
เนื่องจากพลังงานศักย์มีค่าเป็นอนันต์ ทำให้เทอม
มีค่าใหญ่กว่าเทอมอื่นมาก ๆ จึงสามารถตัดเทอมอื่นทิ้งได้ จะได้ว่า
แต่เนื่องจาก
ดังนั้น
บริเวณ![\mathbf{III} (x > 0 , V = \infty)](https://lh3.googleusercontent.com/blogger_img_proxy/AEn0k_uuLvwLcAX_O0kJzl_bC29RoN38bo7hwR40aP1wGQ51bT-UBvtyUaWBCsV7bvlkFZZtLy2Nwy0dTepVL3ufUYrVuP2NPaT9lnZIi77k6W4tjvaBBJGugArZfrnHxoaZLZlJWawENN0LPn7IXCcmEi5nf8YgN5jdvPKDtyFlivaa-WOx2BIkY6pOtY646Zj75rpaw1iWxKwqaBy3=s0-d)
ทำนองเดียวกันกับบริเวณที่
จะได้ว่า
จะเห็นว่าบริเวณภายนอกบ่อมีฟังก์ชั่นคลื่นเป็นศูนย์ทั้งสองบริเวณ เมื่อหาค่า
หรือ ความหนาแน่นของความน่าจะเป็นที่จะพบอนุภาค(Probability density) ย่อมมีค่าเป็นศูนย์ด้วย สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เมื่ออนุภาคถูกกักขังอยู่ภายในบ่อและไม่สามารถออกไปภายนอกบ่อได้แล้ว โอกาสที่จะพบอนุภาคบริเวณภายนอกบ่อนั้นย่อมไม่มีหรือเป็นศูนย์
บริเวณ![\mathbf{II} (0 \leq x \leq L , V = 0)](https://lh3.googleusercontent.com/blogger_img_proxy/AEn0k_t_I-7BL-Tlg6AOgGpXXGdStmHUMj8gmjmE2RvIEQUSJBSPiXfhvAuQFzLdOpIRZimgCaunSJeGQsBAHxVRHjEqaYW1sDxbwyoarXFEsA4vIopX4PJTvw5Q7jXdy0VhSG3FcEUocwPzuKRPq4m2xc0KlQFWGGBadPHWXFNwgkd-2ChJfd0Ec84qoN9XHz0-PScvkmDZZaSkR-wYe8f4XF4So2UGcFQccQk0tD20=s0-d)
เนื่องจากพลังงานศักย์ในบริเวณภายในบ่อมีค่าเป็นศูนย์ สมการชเรอดิงเงอร์จึงลดรูปเหลือ
หรือ
ให้
จะได้ว่า
สังเกตว่าสมการชเรอดิงเงอร์เป็นสมการเชิงอนุพันธ์อันดับที่ 2 การหาผลเฉลยสามารถทำได้หลากหลายวิธี และหนึ่งในนั้นคือการเดาผลเฉลยขึ้นมาแล้วแทนลงไปในสมการตั้งต้น เมื่อแทนเข้าไปแล้วหากทำให้สมการเป็นจริงก็แสดงว่าผลเฉลยนั้นเป็นผลเฉลยของสมการตั้งต้น โดยในกรณีนี้ทดลองเดาผลเฉลยที่เมื่อหาอนุพันธ์สองครั้งแล้วได้กลับมาเป็นฟังก์ชั่นเดิมคือ
จะได้ว่าผลเฉลยที่เป็นไปได้มี 2 ฟังก์ชั่นด้วยกัน คือ
และ
เนื่องจากทำให้สมการตั้งต้นเป็นจริง ในขณะที่ ฟังก์ชั่น exponential นั้น เครื่องหมายที่ได้ออกมาเป็นบวกขัดกับสมการตั้งต้นที่จะต้องมีเครื่องหมายเป็นลบจึงไม่ใช่ผลเฉลยของสมการ ดังนั้นเราจะได้ผลเฉลยของสมการชเรอดิงเงอร์ในรูปทั่วไป คือ
เมื่อ
และ
เป็นค่าคงที่ใด ๆ
Infinite square well (particle in a box) - Slide.
[1] The Schrodinger equation in 1 D
[2] Infinite square well potential
[3] Solution of TISE
[4] Boundary condition
[5] Normalization
[6] Energy
บริเวณ
เนื่องจากพลังงานศักย์มีค่าเป็นอนันต์ ทำให้เทอม
แต่เนื่องจาก
บริเวณ
ทำนองเดียวกันกับบริเวณที่
จะเห็นว่าบริเวณภายนอกบ่อมีฟังก์ชั่นคลื่นเป็นศูนย์ทั้งสองบริเวณ เมื่อหาค่า
บริเวณ
เนื่องจากพลังงานศักย์ในบริเวณภายในบ่อมีค่าเป็นศูนย์ สมการชเรอดิงเงอร์จึงลดรูปเหลือ
หรือ
ให้
สังเกตว่าสมการชเรอดิงเงอร์เป็นสมการเชิงอนุพันธ์อันดับที่ 2 การหาผลเฉลยสามารถทำได้หลากหลายวิธี และหนึ่งในนั้นคือการเดาผลเฉลยขึ้นมาแล้วแทนลงไปในสมการตั้งต้น เมื่อแทนเข้าไปแล้วหากทำให้สมการเป็นจริงก็แสดงว่าผลเฉลยนั้นเป็นผลเฉลยของสมการตั้งต้น โดยในกรณีนี้ทดลองเดาผลเฉลยที่เมื่อหาอนุพันธ์สองครั้งแล้วได้กลับมาเป็นฟังก์ชั่นเดิมคือ
จะได้ว่าผลเฉลยที่เป็นไปได้มี 2 ฟังก์ชั่นด้วยกัน คือ
เมื่อ
Infinite square well (particle in a box) - Slide.
[1] The Schrodinger equation in 1 D
[2] Infinite square well potential
[3] Solution of TISE
[4] Boundary condition
[5] Normalization
[6] Energy