2012 ASIA-EUROPE-PACIFIC SCHOOLOF HIGH-ENERGY PHYSICS (Oct 14-27, 2012)
Excursion half day : wed, 17 0ct เดินทางไปกลับ ~ 3 ชม.
Excursion full day : sat, 20 0ct เดินทางไปกลับ ~ 5-6 ชม.
Free afternoon : 24 Oct.
Album :
(P14B).Komyozenji Temple-Kyushu Museum-Dazaifu Temmangu Shrine
>> Link1 Link2 Link3 <<
(P14C).Mount Aso and Kumamoto Castle @JAPAN
>> Link1 Link2 <<
(P14D).Free walk ^_^ @JAPAN
>> Link1 Link2 <<
(P14E). Student Presentation, Discussion Session and Lectures
>> Link <<
(P14F).Yummy!! FOOD, and PARTY (^_^) @AEPSHEP
>> Link <<
Credit Photos : Nooraihan Abdullah, Kanishka Rawat, Elida L Istiqomah, Manoj Kumar Singh, Varchaswi Kashyap, Maryam Hasheminia, and AEPSHEP.
Thanks AEPSHEP for nice trip ^^__^^
Excursion to Komyozenji Temple, Kyushu National Museum, and Dazaifu Temmangu Shrine =^_^= (สวนหินแห่งวัด Komyozenji , พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ Kyushu และ ศาลเจ้า Dazaifu)
(1).Komyozenji Temple (is well known for its stone gardens).
ภาษาไทยก็คงเรียกว่าสวนหินแห่งวัด Komyozenji อะไรทำนองนี้ ค่าเข้าปรกติ 200 เยน แต่กรณีนี้สคูลจ่ายให้ ฮี่ ๆ ^_^ บรรยากาศร่มรื่น เค้าทำเป็นสไตล์ญี่ปุ่นโบราณหมดเลย เข้าไปแย้วก้ออยากจาหลับปุ๋ยปายเลย ZZzzzz'
(2).Kyushu National Museum (The Kyushu National Museum was opened as the Japan's fourth national museum based on the unique concept of "understanding the formation of Japanese culture from an Asian historical perspective".)
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติแห่งที่ 4 ของญี่ปุ่น ข้างในห้ามถ่ายรูป แต่โดยรวมก็เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ที่เค้าพยายามจะรวบรวมศิลปวัฒนธรรมของเอเชียจากประเทศต่าง ๆ มารวมไว้ เป็นประวัติศาสตร์วัฒนธรรมญี่ปุ่นในช่วงที่ประเทศญี่ปุ่นมีการแลกเปลี่ยนกับประเทศอื่นในเอเชีย มีทั้งข้าวของเครื่องใช้สมัยโบราณยุคต่าง ๆ เสื้อผ้า การแสดง ภาพวาด บางอันก็โห มีแบบนี้ด้วย เค้าไปเอามาจากใหนเนี่ย ฮี่ ๆ ^_"
ค่าเข้าชมปรกติ 420 เยน แต่เช่นเดียวกันเราไม่ได้จ่ายอีกแย้ว ฮิ ฮิ
(3).Dazaifu Tenmangu Shrine (Dazaifu was established approximately 1,300 years ago. It waspivotal for Japan's diplomatic relations. Dazaifu Tenmangu Shrine, dedicated to Michizane Sugawara (845-903) who is god of study.)
ศาลเจ้าในเมือง ฟุกุโอกะ อันนี้ประวัติน่าสนใจมากก๊าบ เพราะเค้าสร้างให้เป็นอนุสรณ์สถานแด่ “มิชิซาเนะ ซึงาวาระ” (Sugawara no Michizane) กวีเอกและนักปราชญ์ของญี่ปุ่นในยุคเฮอัน ซึ่งเริ่มสร้างตะแต่ปี 1591 โดยตรงทางเข้าศาลเจ้ามีรูปปั้นวัวเทพเจ้านอนอยู่ ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าถ้าได้ลูบหัวและเขาของวัวจะทำให้หายจากอาการเจ็บป่วยและจะโชคดี ประสบความสำเร็จในเรื่องการเรียน O___O (อันนี้ลูบปายแย้ว ฮี่ ๆ) ก่อนเข้าศาลเจ้าก็ต้องทำความสะอาดชำระร่างกาย จากนั้นก็ให้โยนเหรียญ 5yen (ซึ่งมีเสียงพ้องกับคำว่าโชคดี ....อันนี้พึ่งรู้นะเนี่ย) แล้วตบมือ 2 ทีก่อนอธิษฐานขอพร
Excursion to Mount Aso and Kumamoto Castle (^_^)*(ภูเขาไฟ Aso และ ปราสาท Kumamoto)
(1).Mount Aso (Mt. Aso is located in Kumamoto Prefecture in the center of Kyushu, it is one of the largest calderas in the world. It is 17 kilometers across from east to west, 25 kilometers across from north to south, and has an area of roughly 350 square kilometers.)
ภูเขาไฟ Aso เกิดเมื่อประมาณ 300,000 ปีที่แล้ว ตามประวัติเคยมีการระเบิดมาแล้วถึง 4 ครั้ง ครั้งล่าสุดก้อ...ประมาณ 20,000 ปีนี่เองล่ะนะ 555+ ทำให้เกิดเป็นปากปล่องภูเขาไฟ 5 แห่ง คือ เนะโกะดาเกะ ทากะดาเกะ คิจิมาดาเกะ และ อิโบชิดาเกะ (ซึ่ง 4 อันนี้ดับไปแล้ว) เหลือแต่ปากปล่อง นาคะดาเกะ (Mt. Naka-dake) ที่ยังครุกรุนอยู่ ฮี่ ๆ และนี่เองที่อยู่ในรูปที่อ๊ะจังส์ถ่ายมา อิอิ
บริเวณปล่องภูเขาไฟทั้งหมดเรียกว่า อาโสะ โกทาเกะ จัดเป็น "หุบเขาภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก" คือยาวถึง 18 กม. เส้นรอบวง 120 กม. ส่วนปล่องนาคะดาเกะ มีส่วนที่ยาวสุดของปากปล่องวัดได้ 600 เมตร ลึกลงไปถึงแมกม่า 160 เมตร สูง 1506 เมตรจากระดับน้ำทะเล และจะมีควันจากก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์พุ่งขึ้นมาตลอดเวลาการเดินทางขึ้นไปยังภูเขาไฟก็ต้องขึ้นกระเช้าไฟฟ้าที่สถานี Asozan Nishi อยู่ที่ชั้น 2 ของสถานี ค่ากระเช้าไปกลับ 1000 เยนนะก๊าบ (สคูลน่าร๊ากที่ฉุดเลยจ่ายให้อีกแย้ว ฮี่ ๆ ^_^) เวลาขึ้นกระเช้าไปจนถึงยอดประมาณ 4-5 นาที มีกระเช้ามาทุก 15-20 นาที (เวลาเปิด ปิด 8:30-17:00) ตอนนี้สนุกสนานกันใหญ่ แหะ ๆ แต่ตอนขึ้นกระเช้าก็แอบเห็นแว๊บ ๆ นะว่ามีลุงคนนึงแกทุ่มทุนสร้างขนาดเดินเท้าขึ้นไปเองเลยเจ๋งมาก (ถ่ายรูปมาด้วยล่ะ ฮี่ ๆ)
(2).Kumamoto Castle (is one of famous castles in Japan).
ปราสาทคุมะโมะโตะ เป็นปราสาทมีใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น สร้างขึ้นตามแบบสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเขตชูโอ เมืองคุมะโมะโตะ ในจังหวัดคุมะโมะโตะ (ที่เห็นของปัจจุบันเป็นปราสาทที่สร้างขึ้นมาใหม่ตามแบบของเดิมเพราะอันเก่าถูกทำลายไปแร้วนะก๊าบ) ค่าผ่านประตูปราสาท 500 เยน (สคูลที่น่าร๊ากจ่ายก๊าบ ฮิ ฮิ ^_^)
ปราสาทคุมะโมะโตะเริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1467 ในสมัยของ อิเดะตะ ฮิเดะโนะบุ จนเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1601-1607 ประมาณ 400 ปีก่อน ในสมัยของ คะโต คิโยะมะซะ เจ้าแห่งคุมะโมะโตะ เพื่อใช้เป็นป้อมปราการ พื้นที่อาณาบริเวณของปราสาทยาวประมาณ 9 กิโลเมตร ตัวปราสาทมีป้อมปืน 49 ป้อม ประตูป้อมปืน 18 ประตู และประตูขนาดเล็ก 29 ประตู มีหอคอยสูง 2 หอ ทำให้สามารถมองได้รอบทิศจากมุมสูง หอใหญ่จะสูง 30.3 เมตร หอเล็กสูง 19 เมตร ปราสาทหลังเดิมถูกเพลิงไหม้เสียหายในปี ค.ศ.1877 ต่อมาได้สร้างใหม่ในปี ค.ศ.1960ปราสาทคุมะโมะโตะ เป็นหนึ่งในสามปราสาทที่มีแนวรั้วกำแพงหินที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น เมื่อถึงฤดูชมดอกซากุระ จะเปิดให้เข้าชมในเวลากลางคืนด้วยหากท่านได้เดินชมตัวปราสาทที่ฉาบแสงไฟ และดอกซากุระยามราตรี ไปตามถนนที่ประดับด้วยโคมไฟแล้ว ท่านจะได้ลิ้มรสกับความสุขที่ยากจะหาใดเปรียบเชิญรับชมภาพของ "ปราสาทคุมะโมะโตะ" แต่ว่าที่อ๊ะจังส์ไปเนี่ยมานตอนกลางวันนะ และมะจ้ายฤดูชมดอกซากุระด้วย (อดปาย ฮี่ ๆ)
Free walk ^_^ @JAPAN
(1).Hakata Okunchi Festival at Kushida Shrine.
Hakata Okunchi Festival, which gives thanks for the autumn harvest, began around 1200 years ago. This festival includes a traditional parade. Kushida Shrine is the center of the festival.
(2).Canal City อันนี้คงมะต้องอธิบายเนาะ เพราะมานก้อคือกลุ่ม Shopping Mall ที่จามาดูดเงินจากบ๊อง ๆ ที่เห็นอะไร ก้อตื่นเต้นปายหมดอย่างเรานี่แหละ ฮี่ ๆ ^^__^^
(3).สวนน้อยอะไรซักอย่างเนี่ยแหละ บอกมะถูกเหมือนกาน เพราะเฮียฮิโระ ผู้นำทริป ก้อพาตามแผนที่ไป ฮิ ฮิ Orzzz....... :P
Excursion half day : wed, 17 0ct เดินทางไปกลับ ~ 3 ชม.
Excursion full day : sat, 20 0ct เดินทางไปกลับ ~ 5-6 ชม.
Free afternoon : 24 Oct.
Album :
(P14B).Komyozenji Temple-Kyushu Museum-Dazaifu Temmangu Shrine
>> Link1 Link2 Link3 <<
(P14C).Mount Aso and Kumamoto Castle @JAPAN
>> Link1 Link2 <<
(P14D).Free walk ^_^ @JAPAN
>> Link1 Link2 <<
(P14E). Student Presentation, Discussion Session and Lectures
>> Link <<
(P14F).Yummy!! FOOD, and PARTY (^_^) @AEPSHEP
>> Link <<
Credit Photos : Nooraihan Abdullah, Kanishka Rawat, Elida L Istiqomah, Manoj Kumar Singh, Varchaswi Kashyap, Maryam Hasheminia, and AEPSHEP.
Thanks AEPSHEP for nice trip ^^__^^
Excursion to Komyozenji Temple, Kyushu National Museum, and Dazaifu Temmangu Shrine =^_^= (สวนหินแห่งวัด Komyozenji , พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ Kyushu และ ศาลเจ้า Dazaifu)
(1).Komyozenji Temple (is well known for its stone gardens).
ภาษาไทยก็คงเรียกว่าสวนหินแห่งวัด Komyozenji อะไรทำนองนี้ ค่าเข้าปรกติ 200 เยน แต่กรณีนี้สคูลจ่ายให้ ฮี่ ๆ ^_^ บรรยากาศร่มรื่น เค้าทำเป็นสไตล์ญี่ปุ่นโบราณหมดเลย เข้าไปแย้วก้ออยากจาหลับปุ๋ยปายเลย ZZzzzz'
(2).Kyushu National Museum (The Kyushu National Museum was opened as the Japan's fourth national museum based on the unique concept of "understanding the formation of Japanese culture from an Asian historical perspective".)
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติแห่งที่ 4 ของญี่ปุ่น ข้างในห้ามถ่ายรูป แต่โดยรวมก็เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ที่เค้าพยายามจะรวบรวมศิลปวัฒนธรรมของเอเชียจากประเทศต่าง ๆ มารวมไว้ เป็นประวัติศาสตร์วัฒนธรรมญี่ปุ่นในช่วงที่ประเทศญี่ปุ่นมีการแลกเปลี่ยนกับประเทศอื่นในเอเชีย มีทั้งข้าวของเครื่องใช้สมัยโบราณยุคต่าง ๆ เสื้อผ้า การแสดง ภาพวาด บางอันก็โห มีแบบนี้ด้วย เค้าไปเอามาจากใหนเนี่ย ฮี่ ๆ ^_"
ค่าเข้าชมปรกติ 420 เยน แต่เช่นเดียวกันเราไม่ได้จ่ายอีกแย้ว ฮิ ฮิ
(3).Dazaifu Tenmangu Shrine (Dazaifu was established approximately 1,300 years ago. It waspivotal for Japan's diplomatic relations. Dazaifu Tenmangu Shrine, dedicated to Michizane Sugawara (845-903) who is god of study.)
ศาลเจ้าในเมือง ฟุกุโอกะ อันนี้ประวัติน่าสนใจมากก๊าบ เพราะเค้าสร้างให้เป็นอนุสรณ์สถานแด่ “มิชิซาเนะ ซึงาวาระ” (Sugawara no Michizane) กวีเอกและนักปราชญ์ของญี่ปุ่นในยุคเฮอัน ซึ่งเริ่มสร้างตะแต่ปี 1591 โดยตรงทางเข้าศาลเจ้ามีรูปปั้นวัวเทพเจ้านอนอยู่ ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าถ้าได้ลูบหัวและเขาของวัวจะทำให้หายจากอาการเจ็บป่วยและจะโชคดี ประสบความสำเร็จในเรื่องการเรียน O___O (อันนี้ลูบปายแย้ว ฮี่ ๆ) ก่อนเข้าศาลเจ้าก็ต้องทำความสะอาดชำระร่างกาย จากนั้นก็ให้โยนเหรียญ 5yen (ซึ่งมีเสียงพ้องกับคำว่าโชคดี ....อันนี้พึ่งรู้นะเนี่ย) แล้วตบมือ 2 ทีก่อนอธิษฐานขอพร
Excursion to Mount Aso and Kumamoto Castle (^_^)*(ภูเขาไฟ Aso และ ปราสาท Kumamoto)
(1).Mount Aso (Mt. Aso is located in Kumamoto Prefecture in the center of Kyushu, it is one of the largest calderas in the world. It is 17 kilometers across from east to west, 25 kilometers across from north to south, and has an area of roughly 350 square kilometers.)
ภูเขาไฟ Aso เกิดเมื่อประมาณ 300,000 ปีที่แล้ว ตามประวัติเคยมีการระเบิดมาแล้วถึง 4 ครั้ง ครั้งล่าสุดก้อ...ประมาณ 20,000 ปีนี่เองล่ะนะ 555+ ทำให้เกิดเป็นปากปล่องภูเขาไฟ 5 แห่ง คือ เนะโกะดาเกะ ทากะดาเกะ คิจิมาดาเกะ และ อิโบชิดาเกะ (ซึ่ง 4 อันนี้ดับไปแล้ว) เหลือแต่ปากปล่อง นาคะดาเกะ (Mt. Naka-dake) ที่ยังครุกรุนอยู่ ฮี่ ๆ และนี่เองที่อยู่ในรูปที่อ๊ะจังส์ถ่ายมา อิอิ
บริเวณปล่องภูเขาไฟทั้งหมดเรียกว่า อาโสะ โกทาเกะ จัดเป็น "หุบเขาภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก" คือยาวถึง 18 กม. เส้นรอบวง 120 กม. ส่วนปล่องนาคะดาเกะ มีส่วนที่ยาวสุดของปากปล่องวัดได้ 600 เมตร ลึกลงไปถึงแมกม่า 160 เมตร สูง 1506 เมตรจากระดับน้ำทะเล และจะมีควันจากก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์พุ่งขึ้นมาตลอดเวลาการเดินทางขึ้นไปยังภูเขาไฟก็ต้องขึ้นกระเช้าไฟฟ้าที่สถานี Asozan Nishi อยู่ที่ชั้น 2 ของสถานี ค่ากระเช้าไปกลับ 1000 เยนนะก๊าบ (สคูลน่าร๊ากที่ฉุดเลยจ่ายให้อีกแย้ว ฮี่ ๆ ^_^) เวลาขึ้นกระเช้าไปจนถึงยอดประมาณ 4-5 นาที มีกระเช้ามาทุก 15-20 นาที (เวลาเปิด ปิด 8:30-17:00) ตอนนี้สนุกสนานกันใหญ่ แหะ ๆ แต่ตอนขึ้นกระเช้าก็แอบเห็นแว๊บ ๆ นะว่ามีลุงคนนึงแกทุ่มทุนสร้างขนาดเดินเท้าขึ้นไปเองเลยเจ๋งมาก (ถ่ายรูปมาด้วยล่ะ ฮี่ ๆ)
(2).Kumamoto Castle (is one of famous castles in Japan).
ปราสาทคุมะโมะโตะ เป็นปราสาทมีใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น สร้างขึ้นตามแบบสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเขตชูโอ เมืองคุมะโมะโตะ ในจังหวัดคุมะโมะโตะ (ที่เห็นของปัจจุบันเป็นปราสาทที่สร้างขึ้นมาใหม่ตามแบบของเดิมเพราะอันเก่าถูกทำลายไปแร้วนะก๊าบ) ค่าผ่านประตูปราสาท 500 เยน (สคูลที่น่าร๊ากจ่ายก๊าบ ฮิ ฮิ ^_^)
ปราสาทคุมะโมะโตะเริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1467 ในสมัยของ อิเดะตะ ฮิเดะโนะบุ จนเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1601-1607 ประมาณ 400 ปีก่อน ในสมัยของ คะโต คิโยะมะซะ เจ้าแห่งคุมะโมะโตะ เพื่อใช้เป็นป้อมปราการ พื้นที่อาณาบริเวณของปราสาทยาวประมาณ 9 กิโลเมตร ตัวปราสาทมีป้อมปืน 49 ป้อม ประตูป้อมปืน 18 ประตู และประตูขนาดเล็ก 29 ประตู มีหอคอยสูง 2 หอ ทำให้สามารถมองได้รอบทิศจากมุมสูง หอใหญ่จะสูง 30.3 เมตร หอเล็กสูง 19 เมตร ปราสาทหลังเดิมถูกเพลิงไหม้เสียหายในปี ค.ศ.1877 ต่อมาได้สร้างใหม่ในปี ค.ศ.1960ปราสาทคุมะโมะโตะ เป็นหนึ่งในสามปราสาทที่มีแนวรั้วกำแพงหินที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น เมื่อถึงฤดูชมดอกซากุระ จะเปิดให้เข้าชมในเวลากลางคืนด้วยหากท่านได้เดินชมตัวปราสาทที่ฉาบแสงไฟ และดอกซากุระยามราตรี ไปตามถนนที่ประดับด้วยโคมไฟแล้ว ท่านจะได้ลิ้มรสกับความสุขที่ยากจะหาใดเปรียบเชิญรับชมภาพของ "ปราสาทคุมะโมะโตะ" แต่ว่าที่อ๊ะจังส์ไปเนี่ยมานตอนกลางวันนะ และมะจ้ายฤดูชมดอกซากุระด้วย (อดปาย ฮี่ ๆ)
Free walk ^_^ @JAPAN
(1).Hakata Okunchi Festival at Kushida Shrine.
Hakata Okunchi Festival, which gives thanks for the autumn harvest, began around 1200 years ago. This festival includes a traditional parade. Kushida Shrine is the center of the festival.
(2).Canal City อันนี้คงมะต้องอธิบายเนาะ เพราะมานก้อคือกลุ่ม Shopping Mall ที่จามาดูดเงินจากบ๊อง ๆ ที่เห็นอะไร ก้อตื่นเต้นปายหมดอย่างเรานี่แหละ ฮี่ ๆ ^^__^^
(3).สวนน้อยอะไรซักอย่างเนี่ยแหละ บอกมะถูกเหมือนกาน เพราะเฮียฮิโระ ผู้นำทริป ก้อพาตามแผนที่ไป ฮิ ฮิ Orzzz....... :P
